สถานปฏิบัติธรรม สมัครฟรี
ดำเนินการโดย มูลนิธิโรงเรียนแห่งชีวิต
ข่าวสารอัพเดท

“โพธิธรรมญาณ” มีความหมายว่า ญาณในการชำระจิตให้บริสุทธิ์จนรู้แจ้งเห็นจริง ด้วยหลักการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ที่มีพลานุภาพมหาศาล ในการเผาและถอนอาสวกิเลส จนรู้แจ้งแทงทะลุและนำไปสู่มรรคผลนิพพาน
โพธิธรรมญาณสถานเตชะชัยสิทธิ
นับจากจุดที่ท่านอาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล พากเพียรปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ตามแนวทางของท่านอาจารย์ โกเอ็นก้า ในขณะที่ยังเป็นฆราวาส 6 ปี กับการภาวนา 4,000 ชั่วโมง เป็นบทพิสูจน์ความมั่นคงในการมุ่งหน้าสู่การหลุดพ้น
จนวันที่ท่านได้รับกระแสจากพระอาจารย์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้มาสอนสั่งปฏิบัติเพ่งดูจิตผ่านกายที่มือ เพื่อให้เกิดการจุดธาตุไฟในกายมาประหารกิเลส เมื่อท่านได้ปฏิบัติตาม ก็เห็นผลอย่างน่าอัศจรรย์ เกิดความร้อนขึ้นที่ในจิตและกาย จนสามารถเผาชำระกิเลสได้อย่างรวดเร็ว ผลที่ประจักษ์คือ สามารถละกิเลสละเอียดที่ละได้ยาก เช่น ความโลภ ราคะ และความยึดมั่นถือมั่น ท่านได้หันมาปฏิบัติด้วยวิธีนี้ โดยมีสติสัมปชัญญะอย่างสมบูรณ์และวางจิตให้เป็นอุเบกขา
จนเมื่อปฏิบัติได้ถึง 6,000 ชั่วโมง ท่านอาจารย์ได้ดำริที่จะหันหลังให้กับโลกธุรกิจที่หรูหราฟุ้งเฟ้อ มุ่งมั่นอุทิศตนให้ทางธรรม และก่อตั้งโพธิธรรมญาณสถานขึ้นด้วยการใช้ทุนของตนเองซื้อที่ดินและสร้างธรรมสถาน รวมถึงออกแบบสถานธรรมด้วยตนเอง โดยเน้นให้นักภาวนาได้ใกล้ชิดธรรมชาติที่กลมกลืน สัปปายะ ท่านได้อาราธนาทางจิต ถือพระอาจารย์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เป็นพระอาจารย์ใหญ่แห่งสายวิชา
จากจุดเริ่มต้นในเดือนมกราคม 2554 จนถึงปัจจุบัน (2567) ท่านสอนธรรมขั้นต้นและขั้นสูงให้แก่ศิษย์ร่วมหนึ่งหมื่นคน และเขียนสอนธรรมไม่ต่ำกว่า 1,000 คำสอน และศิษย์เหล่านี้ได้กลายมาเป็นกองทัพธรรมแห่งกึ่งพุทธกาล ผู้มีปณิธานร่วมกับท่านในการฟื้นฟูและสืบสานพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่ครบ 5,000 ปี และมุ่งมั่นทำความดีให้แก่ศาสนา สังคม ชาติ และโลก โดยยึดหลักความสมดุล ไม่ละทิ้งหน้าที่ทางโลก และอุทิศตนเพื่อความดีงาม
ผู้ที่มีความสนใจในเรื่อง การฝึกสติ การฝึกสมาธิ ไปจนถึง การฝึกปฏิบัติแบบจริงจังอย่าง การฝึกวิปัสสนา สามารถสมัครเข้ารับการอบรมได้ที่สถานปฏิบัติธรรมทั้ง 4 แห่งในประเทศไทย ดังนี้
4. ห้องภาวนามูลนิธิโรงเรียนแห่งชีวิต, กรุงเทพฯ
กดดูรายละเอียดคอร์สต่างๆ ได้ที่ ตารางคอร์สปฏิบัติ

ท่านอาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล
วิปัสสนาจารย์แห่งสายธรรม
"โพธิธรรมญาณสถานเตชะชัยสิทธิ"
ท่านอาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล เป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิโรงเรียนแห่งชีวิต (School of Life Thailand)และองค์กรโนอิ้ง บุดด้า เพื่อการปกป้องพระพุทธศาสนา (Knowing Buddha Organization : KBO)โรงเรียนแห่งชีวิต ประสบความสำเร็จมาก และได้รับการยกย่องเป็น 1 ใน 5 โรงเรียนธรรมะชั้นนำจากนิตยสารในเครืออมรินทร์
ท่านอาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล ได้เผยแผ่ธรรมแท้ที่กลั่นมาจากโพธิจิต จากการปฏิบัติภาวนาอย่างยิ่งยวดกว่า 20,000 ชั่วโมง อีกทั้งท่านยังเป็นผู้ก่อตั้งสถานปฏิบัติธรรมโพธิธรรมญาณสถาน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี มุ่งทุ่มเทอุทิศแรงกายแรงใจ ทำงานเพื่อพระพุทธศาสนาในการกระตุ้นจิตสำนึกชาวพุทธให้ตระหนักถึงหน้าที่ และทำในสิ่งที่พึงกระทำเพื่อปกป้องพระเกียรติพระศาสดา และพระพุทธศาสนาจากการลบหลู่ย่ำยีจากผู้ที่ไม่เข้าใจ
ปัจจุบัน ท่านอาจารย์สอนธรรมะที่โพธิธรรมญาณสถาน และสถานปฏิบัติธรรมต่างๆ เป็นครั้งคราว ทั้งยังดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิโรงเรียนแห่งชีวิต และองค์กรโนอิ้ง บุดด้า เพื่อการปกป้องพระพุทธศาสนา หน้าที่ที่ตั้งใจคือ การมุ่งทำงานปกป้องพระเกียรติพระศาสดา และทำนุบำรุงพระศาสนาด้วยการสอนธรรมให้ผู้คนได้เข้าถึงธรรมที่แท้จริง
คำถามที่พบบ่อย
1. สมาธิ กับวิปัสสนาต่างกันอย่างไร?
การปฏิบัติสมาธิ คือการฝึกจิตให้ตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์เดียว เรียกอีกอย่างว่า สมถกรรมฐาน มีหลายเทคนิควิธีเช่น เทคนิคพุทโธ ยุบหนอพองหนอสำหรับเทคนิคการปฏิบัติดั้งเดิม คือ อานาปานสติ เป็นหลักการเพ่งดูลมหายใจเข้าออกอย่างเป็นธรรมชาติเพื่อทำให้จิตสงบ ผลที่ได้ จะทำให้จิตมีกำลังสติ สมาธิ ทำให้ความจำดี การทำงานมีประสิทธิภาพ
การนั่งสมาธิหรือการเจริญภาวนา ยังถือเป็นบุญกุศลที่สูงที่สุดในพระพุทธศาสนา เพราะขณะปฏิบัติจิตไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น และยังเป็นการสร้างกุศลขั้นสูง จนถึงภพภูมิเป็นเทพชั้นพรหม ให้แก่ตนเองในภายหน้าการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เป็นการภาวนาขั้นสูง มีจุดหมายเพื่อการพ้นทุกข์ โดยการชำระกิเลสความโลภ โกรธ หลง ความเศร้าหมองทั้งปวงออกไปจากจิต
อานิสงส์สูงสุดถึงขั้นนิพพาน คือไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก การจะปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานได้ต้องฝึกสมาธิอานาปานสติเป็นฐานอย่างเพียงพอก่อน
เตโชวิปัสสนา คือการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานโดยมีเทคนิควิธีในการจุดธาตุไฟในกายมาเผากิเลส ตามหลักคำสอน
“อาตาปี สัมปชาโน สติมา พึงมีความเพียรเผากิเลสให้เร่าร้อน มีสติสัมปชัญญะรู้ตัวชัด และวางอุเบกขา ด้วยหลักการภาวนาที่มีอานุภาพในการเผากิเลสสูง และตรงตัว จึงทำให้ผู้ปฏิบัติพบความเปลี่ยนแปลงในตนเองอย่างรวดเร็ว ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปสู่ความดีงามได้ภายใน 7 วัน”
2. ทำไมต้องออกปฏิบัติธรรมที่วัดหรือธรรมสถาน ปฏิบัติอยู่ที่บ้านไม่ได้หรือ?
การปฏิบัติเองที่บ้านโดยไม่มีครูบาอาจารย์ จะขาดผู้ชี้ทางและจิตจะขาดพลัง เพราะที่บ้านเต็มไปด้วยกระแสโลกมายา การปฏิบัติโดยไม่มีผู้ชี้ทาง ก็จะทำให้เกิดความหวาดกลัว และไม่มีความก้าวหน้าอันใด
การออกปฏิบัติธรรมเพียงปีละครั้ง จะทำให้ได้พบทางอันประเสริฐ จากนั้นสามารถนำหลักการไปปฏิบัติต่อเนื่องที่บ้านได้
3. ทำไมต้องปฏิบัติธรรม เสียเวลาทำมาหากิน?
การปฏิบัติธรรมก็เพื่อยกจิตใจให้บริสุทธิ์ พ้นจากกิเลส เป็นการเพิ่มคุณค่าให้แก่ชีวิตในการได้เรียนรู้ธรรมของพระพุทธเจ้าในระดับการปฏิบัติ มิใช่รู้จากเพียงตัวหนังสือ
การปฏิบัติธรรมจะทำให้จิตมีกำลัง สามารถรักษาศีลห้าได้เพื่อปิดประตูบาปและภัยเวรการมุ่งแต่ทำมาหากินอย่างเดียว เมื่อตายไปแล้วก็ไม่สามารถเอาทรัพย์ที่หามานี้ติดตามไปสู่ปรโลกได้ มีแต่บุญและบาปที่จะติดตามจิตไปได้ในภพภูมิต่อ ๆ ไป
การแบ่งเวลามาปฏิบัติธรรมจะเป็นการสะสมกุศลและอริยทรัพย์ให้แก่ชีวิตที่จะติดตามจิตไปได้ทั้งในปัจจุบันและในภพภูมิหน้าอริยทรัพย์จะทำให้เป็นมนุษย์ผู้ไม่ตกต่ำ และ มีนิพพานเป็นที่หวังได้ อริยทรัพย์ได้แก่ศรัทธา ศีล หิริโอตตัปปะ พาหุสัจจะ จาคะ ปัญญา
4. ภาวะหมดบุญคืออะไร?
การที่คนเรามาเกิดได้ ก็ด้วยแรงส่งของบุญกุศลและบาป หากทำบุญมามากก็จะทำให้เกิดมามีพื้นฐานชีวิตดี เพียบพร้อมด้วยฐานะและปัญญา แต่หากฐานบุญไม่ดีก็จะทำให้มาเกิดโดยมีพื้นฐานชีวิตยากลำบาก
นอกจากนี้ระหว่างทางก็จะมีกุศลผลบุญที่ทำมาแต่อดีต ผนวกกับการทำกุศลใหม่ในภพปัจจุบันส่งเสริมชีวิตให้เจริญก้าวหน้า